ระบาย: เมื่อเข้าสู่วงการหมอดูของปีที่ 3 กับชีวิตที่ได้บทเรียนครั้งสำคัญ | ต้อมราตรีศรีโซะ

ไพ่สำรับชื่อ สวนสนุกทาโรต์ ของ Tons of Luck Oracle cards

Disclaimer: บทความทั้งหมดนี้ จะมีเนื้อหาที่มีความคิดเห็นส่วนตัว ประสบการณ์ส่วนตัว และ ความรู้สึกที่ถ่ายทอด ถ้าหากมีผิดพลาดประการใด หรือมีการพูดถึงตัวบุคคลที่สามแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็ขออภัยเอาไว้ ณ ที่นี่ด้วยครับผม

ถ้าเอาจริง ๆ แล้ว แปป ๆ เป็นการเข้าวงการหมอดูมาปีที่ 3 แบบเต็มตัวซะทีแล้วนะ สิ่งที่เปลี่ยนไปต่างจากปีแรก ๆ ที่อยู่ในสมัยของ คลับเฮาส์ สมัยนั้น ที่เต็มไปด้วย ที่เราเคยเขียนไปตั้งแต่ตอนนั้น ก็เริ่มมาจากไม่มีอะไรเลยจริง ๆ แทบจะเรียกว่าเป็นศูนย์ในเรื่องของการดูดวงด้วยซ้ำไป แต่ด้วยโชคชะตามันจะเล่นตลก หรือ สวรรค์ได้กำหนดเอาไว้แล้วจริง ๆ ถ้าหากการที่อยู่วงการหมอดู คือ อาจจะเรียกว่า ไม่ได้ดังนัก แต่อาจจะเรียกว่า ได้เปรียบอยู่บ้าง แม้จะลุยเพื่อหาแสงแต่ไม่ได้อยากดังอะไรนัก เพราะที่ตั้งใจจะทำ เพราะใจรักจริง ๆ แต่พอมันจังหวะมันได้พอดี สังคมยอมรับเรื่องการดูดวง การมูเตลูมากขึ้น ก็เลยไม่ค่อยจะแปลกที่อาจจะมีพวกกำมะลอปะปนอยู่ในนั้นด้วย

ถ้าให้เทียบกันจริง ๆ ระหว่างสมัยก่อนในช่วงยุคโควิดใหม่ ๆ แล้วมาดูตอนนี้ละก็นะ มีอะไรพุดเป็นดอกเห็ดมาก ๆ วิวัฒนาการมันไปไวกว่าที่เราคิดไวเยอะมาก จนบางทีเราก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า ของพวกนี้มันเกินความจำเป็นไปแล้วจริง ๆ หรอว่ะ คนที่เรียนโน่น เรียนนี่ แต่ดันไม่ได้เอาไปใช้ในชีวิตจริงนี่ มันจะเวิร์คจริง ๆ หรอว่ะ บลา ๆ อีกมากมาย ก็ไม่รู้จะเรียนเอาไปทำอะไรนะ หรือว่า เราไปเรียนเพื่อค้นหาตัวเองงั้นหรอ??

ของตัวเอง สามปีที่เป็นหมอดูมานี่ ไปถึงขั้นไหนแล้ว ถ้าจะบอกว่า สามถึงสี่สิ่งมันเกี่ยวข้องกันละ คุณจะเชื่อไหม? นั้นก็คือ ไพ่ยิบซี ออราเคิล โหราศาสตร์ และ เลขศาสตร์

ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงได้ผูกพันในช่องเดียวกันได้ละ เพราะว่า จุดเริ่มต้นของการเติมแพรชั่นด้วยไพ่ทาโรต์และไพ่ออราเคิลนั้นเอง ถึงจะว่าไปเราเองก็ไปไกลจริง ๆ กว่าจะเป็นเจอที่เราถนัดจริง ๆ ก็หายากจริง ๆ เราเองก็ไม่ได้เรียนไปเรื่อยเปื่อย เราก็เรียนตามแพรชั่นจริง ๆ และ สิ่ง ๆ นี้เอาไปต่อยอดได้ด้วย การเรียนไพ่ทาโรต์ มันเลยเป็นจุดเริ่มของโหราศาสตร์ และ เลขศาสตร์ นั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยเขียนไปรอบหนึ่งแล้ว ในตอน ประสบการณ์ตรงจากใจ ที่หมอดูไม่เคยแนะนำ เมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ก็เลยมาเขียนกันต่อว่า ประสบการณ์ที่เจอมาที่นอกจากนี้ มันมีอะไรบ้าง

ค่านิยมของการดูดวง คือ การดูแม่น?

ทุกวันนี้ก็ยังมีคนถามถึงเยอะนะว่า ตามคอมมูต่าง ๆ คือ อยากได้หมอดูแม่น ๆ ดั่งตาเห็นเลย แล้วทำไมถึงไม่ได้ขนาดนั้น เราเองก็ไม่อยากได้แบบนั้นเป็นหลัก แต่เรื่องนี้อยากให้เป็นของแถมมากกว่า เพราะเราเองก็เคยคาดหวัง แล้วดันไม่ได้เป็นตามที่คาดหวังจริง ๆ ก็มีเฟล ๆ บ้างแหละ เห็นมะ ฉะนั้น เราเลยไม่เคยให้ค่า หรือ โฟกัสไปทางด้านหมอดูแม่น ๆ แบบนั้น แต่อยากให้ไปโฟกัสเรื่องของเนื้อหาที่เขาจะสื่อ และ คำถามที่เขาจะถาม แล้วให้คำตอบที่แฟร์และเป็นแนวทางที่มีประโยชน์จะดีกว่านะ

การเรียนเป็นร้อยกว่าคอร์ส หรือ จะสู้ดูดวงต่อหน้าเป็นพันคน

“ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน” เป็นประโยคที่บ่งบอกได้ดีเลยแหละ ต่อให้เรียนเป็นคอร์สเป็นสิบ ๆ คอร์ส เรียนลึกแค่ไหน แต่ว่า ไม่ได้มีประโยชน์เลย หากเทียบกับสู้การดูดวงต่อหน้าผู้คนเป็นพัน ร้อยพ่อ พันแม่ ที่แลกมากับประสบการณ์ที่เจอกับคนจริง ๆ แทบจะเทียบไม่ได้เลยจริง ๆ นะ แม้เราเองก็ไม่ได้มีลูกค้าเยอะอะไรขนาดนั้น แต่สามปีที่ผ่านมาก็เจออะไรมาเยอะเหมือนกันนะ ซึ่งบอกได้เลยว่า ใช้สมอง ใช้ใจ และ ความสามารถของเราที่ต้องใช้ความรู้และความรู้สึกจริง ๆ แล้วผลลัพธ์ มันคือ ประสบการณ์ที่เราค้นพบนั้นเอง

การให้ยืมเงิน เท่ากับ การให้ทาน

เคยมีพูดถึงในเคสแนวนี้เยอะมาก แต่ไม่ได้เจอกับตัวเอง ซึ่งบอกเลยว่า ให้คิดว่าการทำแบบนี้เป็นการทำบุญอย่างหนึ่งได้อย่างดีเลยทีเดียว ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้ตลกกับมีมนี้เท่าไร แต่มันเป็นเรื่องจริงนะ ซึ่งถ้ามาแนวนี้จริง ๆ อยากให้การยืมเงิน แปลงมาเป็นการทำบุญช่วยผู้คนน่าจะเป็นอะไรเวิร์คกว่ามาก ๆ จริง ๆ แหละ

เป็นที่พึ่งพาทางใจ ดึงเขาออกให้อยู่ในที่แสงสว่าง และตาสว่างมาได้

ล่าสุดที่เจอมากับลูกดวงคนหนึ่งที่บอกเลยว่า ถ้าไม่ได้ทักก่อนนี่ ไม่รู้เลยนะว่า เพิ่งอกหักไปเมื่อสามวันก่อน แต่เราเองทำไมรู้สึกว่า ทำไมถึงจับทางได้ว่า มีเคสปัญหาทางความรักแบบจริงจัง ๆ บ้างแล้วละ เพราะเมื่อก่อนเคสปัญหาความรักที่เป็นประเด็นหลัก ๆ เลยมันน้อยมา และในที่สุดก็ทายถูกด้วย ซึ่งเป็นเคสที่ท้าทายมาก ๆ เลยนะ เอาดี ๆ เพราะสิ่งที่คุยกันแรก ๆ แทบจะไม่มีอะไรบอกเลยว่า มีแผลสดมาก ๆ ซึ่งสเต๊ปต่อไปในการทำแบบนี้ คือ การพาลูกดวงไปให้อยู่ในทางสว่าง ตาสว่างของจริงจนถึงสุดทาง ซึ่งมันเป็นเป้าหมายหลักของการดูดวงที่ทุกวันนี้แทบจะหายากแล้วละจริง ๆ แต่สิ่งเหล่านี้มันควรเป็นเรื่องที่จะควรมีสกิลพวกนี้ด้วยนะ

การนับถือองค์เทพ กับ หมอดู มันควรคู่กัน??

เอาจริง ๆ เราเองก็เป็นสายมูมาตั้งแต่เด็กแล้วละ เพราะเราเองก็โตมากับเทพฮินดู บ้านเกิดก็อยู่ในโซนวัดแขก ทำงานเป็นดีเจสมัยนั้น ก็ผ่าน วัดแขก ทำงานก็อยู่ เวิร์ดเทรด ราชประสงค์ มาโดยตลอด โดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยแหละว่า ก่อนหน้านี้ก็ไหว้ท่าน แต่ไม่ได้มีข้อมูลเยอะเท่าทุกวันนี้นะ แต่เรานับถือ เราเครพ ที่ในเชิงคล้าย ๆ พระ ใน พระพุทธศาสนา ยังไงอย่างงั้น ส่วนใครที่รู้สึกว่า เราควรมีองค์เทพประจำตัวนั้น ส่วนตัวมองว่า มันเป็นเรื่องของแต่ละคนแล้วละว่า เราควรไปทางไหน แต่ก็เอาเป็นว่า หากเราทำแล้วมันมีความสบาย มีความสุขในสิ่งที่ทำ และ ไม่เดือดร้อนตัวเองและคนอื่น มันก็โอเค ทำต่อไปเพื่อเป็นที่พึ่งทางใจและมีพลังใจในการใช้ชีวิตนะ แต่การเป็นหมอดูนั้นต้องใช้พลังงานทางใจที่สูงเอาเรื่องนะ การที่นับถือองค์เทพนั้น ก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงมันควรคู่กัน

พอเขียนไปเขียนมา ก็มีเรื่องราวที่จะแบบว่า เออ ประสบการณ์การดูดวงปีที่ 3 นั้น ก็มีอะไรให้ได้เขียนและบันทึกเอาไว้ก็ดีอยู่เหมือนกันนะ อย่างน้อย ๆ ก็ถ้าวันหนึ่งคงกลับไปอ่านแล้วคงย้อนดูสิ่งที่เคยผ่านมาแล้วรำลึกถึงจริง ๆ

--

--

ต้อมราตรีศรีโซะ

Senior Associate Consultant, Support & Security | Tarot & Oracle Reader | Astrology & Numerology | For Work: tomnightsay2394sis@gmail.com